โดย ลอแกน มารี กลิทเทอร์บอมบ์ ลอแกน มารี กลิทเทอร์บอมบ์. บทความต้นฉบับ: Funding Worker Cooperatives: A Solution, 20 ธันวาคม 2023. แปลเป็นภาษาไทยโดย Kin
แต่ความท้าทายใหญ่ที่สุดของสหกรณ์คนทำงานคือ การระดุมเงินทุน (funding) บทความนี้จะสำรวจแนวทางแก้ไขปัญหา 3 แนวทางที่อาจนำมาใช้ได้ทั้งแบบแยกส่วนหรือรวมกัน อันได้แก่ การร่วมลงทุนแบบคอมมูน (venture communism) การสเตกสกุลเงินคริปโต (cryptocurrency staking) และการระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิง (crowdfunding)
การร่วมลงทุนแบบคอมมูนเป็นแนวคิดที่เสนอโดยดมิทรี ไคลเนอร์ (Dmytri Kleiner) ซึ่งได้รับอิทธิพลจากรูปแบบการจัดตั้งแบบสหการอนาธิปไตย (anarcho-syndicalist) โดยเสนอให้มีการจัดตั้ง “คอมมูนร่วมลงทุน” (venture communes) เพื่อแข่งขันกับนักร่วมลงทุน (venture capitalists) แทนที่จะให้ทุนตั้งต้นในรูปของเงินสดเพื่อแลกกับหุ้น คอมมูนร่วมลงทุนจะให้ทุนในรูปของปัจจัยการผลิต อาคารและที่ดิน แลกกับการจ่ายค่าเช่าให้กับคอมมูน นั่นหมายความว่า แทนที่จะต้องประนีประนอมและจัดตั้งสหกรณ์ที่มีผู้ถือผลประโยชน์หลายฝ่าย คนทำงานในแต่ละสหกรณ์ที่ได้รับทุนจากคอมมูนจะสามารถเป็นเจ้าของโดยแรงงานร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีอำนาจควบคุมเต็มที่ทั้งในส่วนของผลผลิตจากแรงงาน รวมถึงผลกำไรที่ได้จากแรงงานนั้นด้วย
ที่สำคัญ คอมมูนเหล่านี้ไม่ได้ละเลยแนวคิดการเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตโดยคนทำงาน สมาชิกของสหกรณ์ที่ได้รับทุนทั้งหมดจะร่วมเป็นเจ้าของคอมมูนร่วมลงทุนแต่ละแห่ง หมายความว่าค่าเช่าที่พวกเขาจ่ายจะกลับไปยังกองทุนที่ควบคุมร่วมกันอย่างเป็นประชาธิปไตย กองทุนดังกล่าวสามารถใช้เพื่อระดุมทุนให้กับการจัดตั้งสหกรณ์อื่นๆ ขณะที่กำไรอาจแบ่งปันกันในหมู่สมาชิกทุกๆ คน ดังนั้น คนทำงานจึงเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตและผลผลิตจากกำลังแรงงานของพวกเขาเอง อีกทั้งยังเป็นวิธีในการให้ทุนสนับสนุนกับการจัดตั้งสหกรณ์คนทำงานแห่งใหม่ๆ ด้วย แค่เพียงสหกรณ์ที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์สักสองแห่งร่วมมือกันก็สามารถช่วยให้ทุนเพื่อสร้างคอมมูนร่วมลงทุนได้แล้ว และต่อให้พวกเขาไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินและอาคารที่ใช้ดำเนินงาน พวกเขาก็ยังสามารถรวมปัจจัยการผลิตเข้าด้วยกันและจ่ายค่าเช่าร่วมกันได้ แน่นอนว่าโมเดลนี้ขึ้นอยู่กับการที่สหกรณ์ที่มีอยู่แล้วช่วยสนับสนุนการสร้างสหกรณ์ใหม่ แต่จะทำอย่างไรถ้าเราต้องเริ่มจากศูนย์
ปัญหานี้อาจแก้ได้ด้วยโมเดลของ Breadchain Breadchain คือสหพันธ์ร่วมของสหกรณ์แบบกระจายศูนย์ สมาชิกสามารถซื้อโทเค็น BREAD ด้วย DAI (Stablecoin) โดย DAI ที่สะสมไว้จะถูกฝากเข้ากองทุนให้กู้ของแพลตฟอร์ม AAVE ซึ่งให้ดอกเบี้ย จากนั้นดอกเบี้ยทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปหา Breadchain โดยอัตโนมัติเพื่อสนับสนุนสหกรณ์ในเครือข่าย Breadchain สมาชิกสามารถไถ่ถอน DAI ที่ฝากไว้คืนเมื่อใดก็ได้ด้วยการขาย BREAD ซึ่งหมายความว่าสมาชิกสามารถสนับสนุนสหกรณ์ได้โดยอาศัยผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องสูญเสียเงินต้นที่ฝากไว้ โมเดลนี้ช่วยให้ผู้ที่มีเงินทุนจำกัดสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างสหกรณ์คนทำงานได้ โดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียวในระยะยาว ทำให้คนชนชั้นแรงงานสามารถสนับสนุนโปรเจคที่พวกเขาต้องการได้ง่ายขึ้น รวบรวมคนที่สนใจให้เพียงพอ สร้างสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ในรูปแบบคล้ายๆ กัน สเตกเหรียญคริปโต และระดมทุนให้มากพอที่จะเริ่มต้นสหกรณ์ร่วมกันได้ แต่หากไม่มีเงินทุนตั้งต้นเลยจะทำอย่างไร
ตรงนี้เองที่วิธีระดมทุนดั้งเดิมแบบคราวด์ฟันดิงเข้ามาแก้ปัญหา เว็บไซต์อย่าง comradery.co ให้บริการระดมทุนแบบคราวด์ฟันดิงเพื่อสหกรณ์ ขอเพียงออกแบบแคมเปญดีๆ พร้อมกับของรางวัลสนุกๆ ให้กับคนที่บริจาค อะไรก็ได้ตั้งแต่เสื้อและแผ่นผ้าพิมพ์ลายแบบ DIY ไปจนถึง NFTs สำหรับพิสูจน์การบริจาค (proof-of-donation NFTs) แล้วโปรโมทให้เต็มที่ จับคู่แคมเปญนี้กับกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ดีๆ ในไม่ช้าคุณก็จะสามารถระดมทุนได้เพียงพอเพื่อเริ่มต้นสหกรณ์ของคุณเองได้ พร้อมทั้งเหลือเงินสำหรับสเตกเหรียญคริปโตเพื่อสร้างแหล่งเงินทุนที่ยั่งยืนด้วย ไม่นานคุณจะมีเครือข่ายสหกรณ์ที่พร้อมก่อตั้งคอมมูนร่วมลงทุนและขยายพื้นที่ร่วมมือของสหกรณ์ให้กว้างออกไป นี่คือโอกาสของเราในการยึดปัจจัยการผลิต ออกไปลุยและประสบความสำเร็จกัน
1 “Horizontally” can be literally translated as แนวนอน, but when combined with the concept of democratic decision-making, it makes little sense in Thai. Instead, I prefer using เสมอหน้า, which conveys a sense of equality in a horizontal way.